เต็ด จิงๆ มันเป็นแค่ ตัวลูก Limited Slip Diffential แค่นั้นเอง
ของเดิมๆ มันเป็น Sequential คือการถ่ายเทกำลัง ไปยังล้อที่มีภาระน้อยสุด
เต็ด หลักๆ ก็ มี เต็ดผ้า กับ เต็ดเฟือง
เต็ดผ้า ก็ภายใน ระบบ คล้ายๆ กับ ครัช นี่แหละ มีผ้า มีจานกด มักจะเป็นเต็ด ซิ่ง ซะส่วนใหญ่
เต็ดเฟืองก็ ใช้เฟืองเป็นตัวถ่ายแรง
ส่วน เต็ด ฝาดำ ฝาแดง ต่างกันยังไงเนี่ย ไม่รู้ชัดเจนเหมือนกัน รู้แต่ว่า ลักษณะการจับ ต่างกัน
ในรูป อันแรก เต็ดฝาแดง อันกลาง เต็ดซิ่ง อันขวาเต็ดฝาดำ.....ดูรูปด้านล่าง
..........................................................................................
เกียร์ LSD นั้นจะเป็น option สำหรับเครื่อง B16A ตั่งแต่เลขเครื่อง56xxxxxเป็นต้นไป ส่วน B18C จะเริ่มที่
101xxxx แต่ถ้าเป็นเครื่องฝาแดงแล้วจะมี LSD ให้ทุกเครื่อง เกียร์ LSD จะมีปั๊มไว้ที่เสื้อเกียร์แต่ถ้ามันจางหายไปก็ต้องดูที่รูตรงหัวเพลาเสียบ ด้านเกียร ์
ถ้าลองเอาไม้แหย่เข้าไปแล้วผ่านโดยไม่ติดอะไรก็แสดงว่าเป็นเกียร ์ LSD
ถ้าเสียบไปแล้วติดกากบาทก็เป็นเกียร์ธรรมดาไม่ม ีLSD
...............................................................................
ถ้าเต็ด เดิมๆ โรงงาน ฝาดำเนี่ย ก็ จะจับประมาณ 40% เท่านั้นเองแหละ ไม่ได้จับตลอด จะบเฉพาะตอนฟรี อัตราการจับ 40/60 คับ
เครื่อง B16A เลข 56xxxxx - 61 จะมีมาให้ แต่ไม่ใช่ทุกเครื่องนะ จะมีแค่บางเครื่องเท่านั้น....
ส่วน ฝาแดง ก็จะมีมาให้อยู่แล้ว เป็น เต็ดฝาแดง......อัตราการจับเท่ากัน แต่ วิธีการจับไม่เหมือนกัน ไว้ไปถามพี่ปอมมาให้แล้วกันนะ ว่ามัน
ต่างกันยังไง
****
วิธีดูว่ามีเต็ดหรือเปล่า ก็ ลองยกหน้ารถ ล้อลอย 2 ล้อ แล้วลองหมุนล้อดู ถ้าเดิมๆไม่มีเต็ด จะหมุนสับกัน ซ้าย ขวา
แต่ถ้ามี หมุนจะไปทางเดียวกัน ทั้งหมุนหน้า และหมุนหลัง ตามนั้น
.......................................................................................
สงสัย นิดนึงอะ คับ ไม่ว่ากันนะคับ ข้อแตกต่าง ระหว่าง เต๊ด กับ ธรรมดา มันต่างกันยังไงหรอ คับ แล้ว ข้อดี ข้อเสีย ด้วยอะคับ ขอบคุณคับ ขอความรู้ นิด นะคับ
....
ต่างกันตรง การส่งกำลัง ลงไปที่ล้อครับ เพราะ ถ้าเป็นธรรมดา จะเป็น Sequential คือ ล้อไหน ภาระน้ำหนักน้อย ระบบส่งกำลังจะถ่ายไปยังล้อนั้นก่อน เช่น ลองยก ล้อขึ้นข้างนึง แล้ว สตาร์ทรถ เข้าเกียร์ ล้อจะไปหมุนล้อที่ยกอยู่ ล้อที่แตะพื้นจะไม่หมุน หรือสังเกตุง่ายๆ เวลา ติดหล่ม หรือ ตกหลุม ล้อใดล้อหนึ่ง รถจะไปไหนไม่ได้เลย ทั้งๆที่อีกล้อนึง อยู่บนพื้นระนาบ ปกติ เป็นเพราะระบบถ่ายเทกำลัง แบบ Sequential ครับ
ข้อดี ของมันก็มีนะ คือ ประหยัดน้ำมัน เพราะระบบจะถ่ายกำลังไปยังล้อที่มีภาระน้ำหนักน้อย
ข้อเสีย ติดหล่มแล้วจะรู้เองแหละ แล้วก็ อาการฟรีทิ้ง ขณะออกตัวที่รอบสูง
แต่ ถ้าเป็น Lsd. หรือ ลิมิเต็ด สลิป จะเป็นการถ่ายเทกำลัง ให้ เท่ากันทั้ง 2 ล้อ แต่ ไม่มี เต็ด ที่ จับ 100% นะครับ เพราะถ้า 100 ก็คงเป็น แกนตรง แล้ว และคงขับยากหน้าดูเลย เวลาเลี้ยว... ตอนนี้ที่เห็นๆ ก็ มากสุด 80% เต็ดก็มีตั้งแต่ 40- 80% แหละคับ
ถ้าเต็ดโรงงาน ก็จับประมาณ 40% แค่นี้ ขับถนน ถือว่าพอใช้แล้ว ถ้ามากกว่านี้ เหมาะกับ ลงสนามเซอร์กิต ครับ
ข้อดี ช่วยให้ออกตัวได้ดีขึ้น/เวลาขึ้นทางลาดๆชันๆ มั่นใจได้ว่าไม่ต้องกลัวไหลลงหรือฟรีทิ้ง เวลาออกตัว
ข้อเสีย เปลืองน้ำมันขึ้น (นิดหน่อย) / บังคับเลี้ยวยาก (อัตราจับสูงๆ 60% up)
ข้อมูล ตามความรู้ของผมนะ ข้อมูลผิดพลาดยังไง ขออภัยล่วงหน้าครับ....(popz_civic PoPz_EG@Nu'SaN)จากRCWEB
............................................................................
ทั้งนี้ยังมี lsd. แบบ 1way / 1.5 way และ 2 way ด้วยนะ ที่ยังไม่ได้พูดถึง เดี๋ยวไปหาข้อมูล มาให้
เอาเป็นว่า เอาเท่าที่รุ้ไปก่อนละกันว่า เต็ด โรงงาน ทั้งฝาแดง และ ฝาดำ เป็นเต็ดแบบ 1 way คือจับเฉพาะตอนเหยียบคันเร่งคับ
ส่วนจะจับกี่ % ก็ตามที่บอกด้านบนแหละ
ส่วน 1.5 กะ 2 way ก็ตามความหมายมันเลย คือ เหยียบจับ ปล่อยจับ
วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น